Menu Close

การตรวจสายตาในผู้ใหญ่และการจ่ายแว่นโปรเกรสซีฟ

            ปัญหาสายตาในผู้ใหญ่ มีทั้งแบบเกิดขึ้นภายหลัง และเกิดขึ้นตั้งแต่แรก การได้รับการตรวจสายตาที่ได้ค่าที่เหมาะสม อุปกรณ์ที่สามารถให้ค่าได้แบบละเอียดมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง 

             เพราะนอกจากจะทำให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำแล้ว เรายังสามารถประเมินได้ถึงปัจจัยอื่นที่จะอาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นได้ด้วย ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยนั้นๆออกไปได้ การประกอบแว่นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในเรื่องการหักเหของแสง ทั้งในดวงตาเราและเลนส์สายตา เราเรียกว่า ระบบเลนส์ นั่นคือ เลนส์ต้องมี Optical center วางเรียงกันเป็นแนวเส้นตรงถึงจะทำให้การมองเห็นเป็นไปตามอุดมคติทางทฤษฎี หากตำแหน่งไม่ตรง ก็จะทำให้ image ที่ผ่านเลนส์มานั้น มีคุณภาพแย่ลง และยิ่งเป็นเลนส์ โปรเกรสซีฟ หรือชื่อเต็มคือ Progressive Addition Lens ค่าสายตาที่ถูกต้อง 

             การประกอบที่ถูกต้องยิ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นั่นเพราะ Progressive เป็นเลนส์ที่มีหลายค่าสายตาในเลนส์ชิ้นเดียว และจะไล่ค่าสายตาตามการเหลือบตาของเรา ทำให้เมื่อตรวจแบบไม่ได้มาตรฐาน ค่าสายตาที่ได้ไม่ตรงความเป็นจริง และหากบังเอิญได้รับการประกอบไม่ตรงตามตำแหน่งที่ต้องการ ทำให้เกิดอาการ วูบวาบ เวียนหัว ใส่ไม่ได้ ปัญหาต่อมาคือเสียเงินฟรี และเข็ดที่จะใช้เลนส์โปรเกรสซีฟไปเลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เราถึงยอมลงทุนใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งมีต้นทุนสูงมาก

เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) คืออะไร ดีไหม

บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า ปัญหาสายตาที่เป็นอยู่นั้น เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟหรือไม่ เราจะมาทำความรู้จักกับ เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร มีกี่แบบ

แว่นโปรเกรสซีฟ ทัศนมาตร

PROGRESSIVE LENS คือเลนส์หลายชั้นไร้รอยต่อที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาในการมองระยะใกล้ หรือผู้ที่มีปัญหาการมองหลายระยะ โดยที่ไม่จำเป็นต้องถอดเข้าออกหรือมีแว่นหลายอัน ช่วยให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น การผลิตเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟในอดีตโครงสร้างของเลนส์ไม่ได้มีความซับซ้อนอย่างในปัจจุบัน โดยโครงสร้างหลักจะได้จากการหล่อผ่านแม่พิมพ์ เพื่อรอการนำไปขัดค่าสายตาสั้น, ยาว, เอียง ธรรมดาทั่วไป ในปัจจุบันได้มีการใช้ Freeform Technology ที่จะทำให้สามารถออกแบบโครงสร้างเลนส์แบบไหนก้อได้

Eye care profesional แว่นโปรเกรสซีฟ ทัศนมาตร

การผลิตเลนส์ นอกจากการออกแบบเลนส์เฉพาะบุคคลได้แล้ว ยังมีการปฎิวัติการผลิตเลนส์ progressive ด้วยเทคโนโลยี Freeform Manufacturing อีกด้วย จากสมัยก่อน Conventional Progressive ที่ต้องใช้แม่แบบหรือ mould ของเลนส์จำนวนมากเพื่อรองรับค่าสายตาและสรีระตาที่หลากหลาย ทำให้ต้องใช้พื้นที่เยอะ ต้นทุนผลิตที่สูง โรงงานที่ใหญ่เพื่อรองรับการสต๊อกเลนส์จำนวนมหาศาล แต่โครงสร้างเลนส์ยังคงถูกจำกัดอยู่

 
  • การผลิตแบบ freeform ไม่จำเป็นต้องมีแม่แบบ เลนส์จะถูกนำเข้าเครื่องเจียรหัวเข็มเพรช เพื่อความละเอียด ผลิตแบบคู่ต่อคู่

  • ข้อมูลค่าสายตาของเรา เช่น จุดศูนย์กลางตาดำ สรีระตา รูปทรงและค่า parameter ของกรอบ รวมถึงพฤติกรรมการใช้สายตาของเรา จะถูกนำไปคำนวนและ optimized โดย software ของทาง Lab เพื่อที่จะได้โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล

  • หลังจากได้โครงสร้างมาแล้วทาง lab จะขัดเลนส์แบบ real time เพื่อให้ได้เลนส์เฉพาะบุคคลที่เหมาะสมกับเราที่สุด

  • ดังนั้น lab จึงมีขนาดเล็กลงและเพิ่มจำนวนโรงงานผลิตได้มากขึ้น ทำให้มีเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพสูงตอบสนองลูกค้าได้สะดวกขึ้น

ด้วยข้อจำกัดทางคณิตศาสตร์และกฎ minkwitz ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟ ไม่ว่าจะ optimized ได้ดีขนาดไหน ก็ยังมีภาพบิดเบือนด้านข้างอยู่ เนื่องด้วยตัวเลนส์มีการไล่ค่าสายตาซ้อนๆกัน แต่ยังคงรูปจากภายนอกเสมือนเลนส์ชั้นเดียว เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถมองภาพในระยะไกล ระยะกลาง (60-90cm) และระยะใกล้ (30-60cm) ได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด

เลนส์ Freeform Progressive ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท: (Freeform, Customized Freeform, Individual)

      FREEFORM PROGRESSIVE:
 
  • จะนำค่าสายตา + สรีระตา (จุดศูนย์กลางตาดำ และพฤติกรรมการเหลือบ) เข้ามาคำนวนเพื่อที่จะ optimized โครงสร้างของเลนส์

  • (Binocular Balance) ตัวโครงสร้างเลนส์จะมีการคำนึงถึงการมองเห็นของตาซ้ายและขวา ทำให้ได้การ balance มุมมองที่นุ่มนวล ปรับตัวง่าย โดยเฉพาะกับผู้ที่มีค่าสายตาต่างกัน 2 ข้าง

  • มีการนำรูปทรงและขนาดของกรอบไปร่วมคำนวนร่วมด้วย เพื่อที่จะให้ได้โครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสม

  • เนื่องจากเวลาเราวาง กรอบแว่นสายตา บนหน้าผู้สวมใส่ จะได้ค่า parameter (มุมโค้ง, มุมเท, ระยะห่างจากกระจกตาถึงด้านหลังของเลนส์) ที่ต่างกันแต่ตัวเลนส์รุ่นนี้ ยังต้องใช้ parameter ที่ทางแลบได้กำหนดไว้ ดังนั้นกรอบที่เลือกควรจะเป็นกรอบที่ดัดเข้ากับรูปหน้าได้

  • เหมาะกับทุกค่าสายตา

  • ราคาเลนส์ Freeform progressive เริ่มต้นที่ 18,900 บาท

 
  1. CUSTOMIZED FREEFORM PROGRESSIVE :

มี technology ที่ใช้ใน Freeform ทั้งหมด เช่น การนำค่าสายตา สรีระตา คำนวนโครงสร้างร่วมกับรูปทรงของกรอบ อีกทั้งยังมีการคำนึงถึงการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้าง

เพิ่มขึ้นมาคือ position of wear เลนส์รุ่นนี้จะเอาสรีระของกรอบเวลาวางอยู่บนใบหน้า จมูก ใบหูตามธรรมชาติ มาร่วมคำนวนและ optimized โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟ

สิ่งที่ลูกค้าได้คือจะได้เลนส์ที่นุ่มนวล สบายตา และการรับรู้ภาพ 3 มิติที่เหนือกว่ารุ่น Freeform progressive

ราคาเลนส์ Customized Freeform Progressive เริ่มต้นที 33,000 บาท

INDIVIDUAL FREEFORM PROGRESSIVE :

  • รวมเทคโนโลยีที่ใช้ในรุ่น freeform และ customized freeform เข้าด้วยกัน

  • เพิ่ม Luminance technology ที่นำเอาขนาดของรูม่านตาในสภาวะแสงต่างๆ เข้ามาคำนวนร่วมกับค่าสายตา ทำให้ได้เลนส์ที่คมชัดทุกสภาวะแสง ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน

  • เพิ่ม lifestyle fit เข้ามาด้วย ตัวเลนส์จะคำนึงถึงกิจกรรมประจำวันของผู้ใส่ lifestyle design จะมี 3 ประเภท (Near, Intermediate, Balance)

  • NEAR :

  • สำหรับผู้ที่เน้นใช้งานระยะ 30-60 cm เป็นหลัก เช่นอ่านหนังสือ ทำงานฝีมือ Laptop และ Smart phone

  • ผู้ที่ทำงาน Indoor เป็นหลัก และลักษณะงาน static นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวเยอะ

INTERMEDIATE :

  • สำหรับผู้ที่เน้นใช้ระยะ 60-90 cm เป็นหลัก งานเอกสาร งาน PC ตั้งโต๊ะ

  • เหมาะกับคนที่มี dynamic lifestyle ขับรถบ่อย เล่นกีฬาเป็นประจำ ที่จะต้องเปลี่ยนระยะจากมองไกล มามองกลาง และมองไกล้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องใช้โครงสร้างที่นุ่มนวลเวลาปรับเปลี่ยนระยะการมอง

BALANCE :

  • สำหรับผู้ที่ต้องการคมชัดทุกระยะในชีวิตประจำวัน มีความนุ่มนวลเวลาที่เปลี่ยนระยะการมองจากไกลมามองไกล้

  • แต่ระยะอ่านหนังสือจะไม่กว้างพิเศษเท่า Type near หรือระยะกลางก็จะไม่กว้างพิเศษเท่า Type intermediate

  • ราคาเลนส์ Individual Freeform Progressive ราคาเริ่มต้นที่ 44,500 บาท

 
 

ปัจจุบันทาง lab ต่างๆมีการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตแบบ freeform ไปผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีโครงสร้างสำเร็จรูปใน software อยู่แล้ว เพื่อจะลดต้นทุนการผลิต โดยที่ไม่ต้อง stock แม่แบบจำนวนมากเหมือนสมัยก่อน แต่คุณภาพของเลนส์กลุ่มนี้จะไม่เทียบเท่ากับเลนส์ freeform และไม่สามารถใส่ parameter เฉพาะบุคคลเข้าไปได้ ดังนั้นเลนส์โปรเกรสซีฟชนิดนี้ทางเราจะแยกประเภทว่าเป็น semi-freeform

 
 
 SEMI-FREEFORM PROGRESSIVE :
 

เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่คำนวนจากโครงสร้างสำเร็จรูปอยู่แล้ว

 
  • จึงไม่ได้นำเอาค่า center ของตาดำ (pd)มาคำนวนร่วมกับค่าสายตาของเรา ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีค่า pd กว้างหรือแคบกว่าค่ามาตรฐาน (64mm) หรือผู้ที่มี center ตาดำต่างกันระหว่างตาข้างซ้ายและขวาเนื่องจากค่า pd และสรีระของตาของคนทั่วไปนั้นแตกต่างกัน ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของแลบ จึงทำให้ได้มุมมองที่ไม่ optimized ตัวเทคโนโลยี freeform จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้

  • ไม่คำนึงถึงการทำงานร่วมกันของทั้ง 2 ตา ดังนั้นจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีค่าสายตาไม่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง

  • ไม่ใด้นำข้อมูลรูปทรงของแว่นและ parameter ของกรอบแว่นมาคำนวนร่วมด้วย ทำให้เราต้องเลือกกรอบที่ได้รูปทรงและ parameter มาตรฐาน

  • ความนุ่มนวล ความสบายตาของ semi freeform จะไม่เท่ากับเลนส์ freeform

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นมองไกล ไม่มีเอียงร่วมด้วย ถ้ามีเอียงไม่ควรเกิน -1.00 และมีค่า pd ในเกณฑ์มาตรฐานของทางแลบ

  • ราคาเลนส์ Semi Freeform Progressive ราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท

ไขข้อข้องใจ เลือกใส่เลนส์แบบไหนดี ระหว่างเลนส์สองชั้น vs เลนส์โปรเกรสซีฟ ไร้รอยต่อ

 

Reference:

 

· Progress in the spectacle correction of presbyopia, Part 1: Design and Development of progressive lens, Darryl J Meister ABOM, Scott W Fisher Bsc, Clinical Experimental Optometry; vol 91, Numnber 3:240-250

 

· Understanding the Position of Wear, Carl Zeiss Vision GmbH, Darryl Meister ABOM

 

· Varnas, Saulius, 2018, PCT/EP2017/080886, Carl Zeiss Vision International GMBH, World Intellectual Property Organization, International publication Number WO 2018/100012 A1